จิตเวชโคราช แนะญาติ! ระวังอาการกำเริบผู้ป่วยจิตเวช!หากพบมี “สัญญานเตือน” ให้รีบแจ้งจนท.สาธารณสุขใกล้บ้านทันที!!

จิตเวชโคราช แนะญาติ! ระวังอาการกำเริบผู้ป่วยจิตเวช!หากพบมี “สัญญานเตือน” ให้รีบแจ้งจนท.สาธารณสุขใกล้บ้านทันที!!  

              รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ แนะญาติและครอบครัวที่อยู่ในจ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสุรินทร์ให้ดูแลผู้ป่วยจิตเวชในช่วงที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอให้กินยาให้ต่อเนื่องและอยู่ที่บ้าน พร้อมให้ป้องกันการป่วยซ้ำ โดยหากพบว่าผู้ป่วยเริ่มมีสัญญาณเตือน 5 อาการปรากฏอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไม่หลับไม่นอน  พูด /ยิ้ม/ หัวเราะคนเดียว หวาดระแวง  ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทันที  เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างฉับไว ใกล้บ้าน  ไม่ต้องรอดูหรือปล่อยให้อาการรุนแรงก่อน

            นายแพทย์กิตต์กวี  โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วประเทศ

เพื่อควบคุมมิให้โรคติดเชื้อโควิด-19  ( COVID-19) แพร่ระบาดในวงกว้าง มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 นั้น

ในส่วนของผู้ป่วยจิตเวชที่อยู่ในเขตสุขภาพที่9 ประกอบด้วยนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์  ซึ่งส่วนใหญ่อาการเรื้อรัง ต้องกินยาต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการและป้องกันการป่วยซ้ำ  โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอยู่ที่บ้านและชุมชน จึงขอให้ญาติและครอบครัว ช่วยกันดูแลผู้ป่วยเป็นกรณีพิเศษให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่  โดยให้อยู่ที่บ้านให้มากที่สุด ทำกิจวัตรประจำวันที่เคยมี ใช้ชีวิตอย่างปกติในรูปแบบที่ปลอดภัย เช่นอยู่ห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร  ไม่อยู่ใกล้กับผู้ที่มีอาการไข้หวัด ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ พักผ่อนให้เพียงพอ  กินยาตามแพทย์สั่ง  พาไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง   ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุราหรือใช้สารเสพติดใดๆ

          “ ประการสำคัญ ขอให้ญาติระมัดระวังอาการกำเริบ ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีสัญญาณอาการเตือนล่วงหน้ามาก่อนเสมอ   5 อาการดังต่อไปนี้

1. ไม่หลับไม่นอน หรือนอนหลับๆตื่นๆ

2. เดินไปมา คือ  มีพฤติกรรมนั่งไม่ติดที่ เดินไปเดินมา

3. พูดจาคนเดียว เช่นพูด ยิ้ม หรือหัวเราะคนเดียว ซึ่งแสดงถึงว่าผู้ป่วยเกิดอาการหูแว่วหรือเห็นภาพหลอน

4. มีอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว  อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย และ

5. หวาดระแวง เช่นคิดว่ามีคนนินทาว่าร้าย มีคนแอบฟัง หรือคอยติดตามทำร้ายเป็นต้น หากมีอาการที่กล่าวมาปรากฏอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กล่าวมา ขอให้รีบแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที ไม่ต้องรอดูหรือปล่อยให้ผู้ป่วยอาการรุนแรงก่อน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาโดยฉับไวและใกล้บ้าน เพื่อควบคุมอาการให้สงบได้อย่างทันท่วงที จะมีผลดีต่อตัวผู้ป่วย และป้องกันปัญหาการนอนรักษาซ้ำในรพ.  ” นายแพทย์กิตต์กวีกล่าว

          นายแพทย์กิตต์กวีกล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถดูแลจิตใจตนเองในระหว่างที่โรคโควิด -19 แพร่ระบาด  ขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำตามหลัก 5 ร. ของกรมสุขภาพจิต  ได้แก่

 1. รู้อารมณ์ หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่นดูหนัง ดูตลกทางมือถือ หรือทางคอมพิวเตอร์ ฟังเพลง ฝึกสมาธิ หลีกเลี่ยงการใช้วิธีคลายเครียดที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าหรือใช้สารเสพติด

2. รับสื่ออย่างมีสติ โดยไม่หมกมุ่นเกิน รับเพียง1-2 ครั้ง และร่วมมือปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

3. รักษาสุขภาพ อยู่บ้าน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด

4. รีบปรึกษา หากมีความกังวลใจ ให้โทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด24 ชั่วโมง  และ

5. ระมัดระวัง ไม่แสดงท่าทีรังเกียจ ไม่ตอกย้ำ ไม่ล้อเลียนผู้ที่เสี่ยงหรือป่วยจากโรคโควิด-19

          ในส่วนของประชาชนที่จำเป็นต้องกักตัวเอง 14 วันตามมาตรการของกรมควบคุมโรค  เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้ได้ผลโดยเร็ว  สามารถดูแลจิตใจไม่ให้เกิดความเครียดด้วยหลัก  5 ต. ดังนี้

1. ติดต่อกับคนที่เรารัก หรือคุ้นเคยผ่านทางมือถือหรือโซเชียลมีเดีย จะช่วยให้เรารู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวและทำให้เกิดกำลังใจ

2. ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ ไม่หมกมุ่นเกินไป หากรู้สึกเครียดให้หยุดติดตามและหากิจกรรมอื่นทำ

3. ต่อต้านความเครียด       เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือที่ชอบ ฟังเพลง เป็นต้น

4. เติมเต็มความรู้ หาข้อมูลดูแลจิตใจตัวเอง หากเครียด กังวลใจ สามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน หรือปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด24 ชั่วโมง และ

5. ต้องชมตัวเองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ยอมกักตัวเอง  ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโรค  โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลความรู้ที่เฟซบุ้คของรพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์   

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *