“เชาว์” จวก รัฐบาลแจกเงินแบบเหวี่ยงแห แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

ส่วนตัวผมคิดว่ารัฐบาลได้มีมาตรการหลายอย่างออกช่วยเหลือความเดือดร้อนแล้ว แต่อย่าลืมว่าอารมณ์คนไทยในเวลานี้ ต้องการความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับมือกับเชื้อโควิด-19 เช่นการทุ่มทุนวิจัยค้นคว้าวัคซีนและยา การจัดอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยาฆ่าเชื้อ การเตรียมพื้นที่รพ.สนามชั่วคราว เตรียมพื้นที่กักบริเวณ หรือเรื่องหน้ากากอนามัยที่มีการกักตุนโก่งราคาและขาดแคลน ให้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ไม่ใช่เงินแค่ 2,000 บาท

นอกจากนี้มาตราการในการดูแลผู้ประกอบการ แม้จะออกมาแล้วในหลายด้าน แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากให้ทำคือการดูแลพนักงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่กำลังกลายเป็นแหล่งร้างคน พนักงานกำลังจะตกงาน คนกลุ่มนี้คือผู้ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน เงิน 1,000 บาทต่อเดือนที่เขาอาจได้รับจากการไปลงทะเบียนครั้งใหม่ของรัฐบาล ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด เพราะการแจกเงิน 1,000 บาท เป็นเวลาสองเดือนให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายราว 20 ล้านคนนั้น เป็นไปในลักษณะเหวี่ยงแหไร้จุดหมาย

การแจกเงินต้องมีวัตถุประสงค์ ไม่ใช่ให้เปล่าโดยไร้ผลลัพธ์ เช่น ธุรกิจใดที่ต้องปิดตัวเลิกจ้างพนักงานชั่วคราว ให้เงินกับธุรกิจนั้นจ้างพนักงานมาพัฒนา พลิกฟื้นสถานประกอบการระหว่างรอการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้แต่ละสถานประกอบการได้ใช้โอกาสนี้ปรับปรุงสถานประกอบการของตัวเองไปในตัว เงินที่แจกจะกลายเป็นการจ้างงาน สร้างรายได้ ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจชุมชนโดยอัตโนมัติ หากทำได้ไม่เพียงแต่จะช่วยเยียวยาผู้ทีได้รับผลกระทบอย่างตรงจุดเท่านั้น ยังทำให้การใช้เงินงบประมาณของรัฐเกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการจ้างงาน แทนการให้เปล่า

“จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนวิธีคิดใช้งบประมาณแผ่นดินแบบรู้คุณค่า แก้ปัญหาให้ถูกจุด เพราะทุกวิกฤตของประเทศคือบทพิสูจน์ฝีมือของผู้นำ ถ้าท่านนายกฯและทีมเศรษฐกิจคิดได้แค่แจกเงินให้เปล่า ผมเชื่อว่า ผนงรจตกม จะแพร่กระจายจนเอาไม่อยู่ กลับตัวตอนนี้ยังไม่สายครับ”นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย