สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดประชุม คณะกรรมการพัฒนาและบริหารฟุตบอลทีมชาติไทย
วันที่ 27 มิถุนายน 2562 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 1 ที่ทำการสมาคมฯ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดประชุม คณะกรรมการพัฒนาและบริหารฟุตบอลทีมชาติไทย โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพทางด้านการแข่งขันของนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยทุกรุ่นอายุ ตามแผนแม่บท 20 ปี
การประชุมในครั้งนี้นำโดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ, วิทยา เลาหกุล อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายเทคนิค, การ์เลส โรมาโกซา ผู้อำนวยการทีมชาติไทย,อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานฝ่ายพัฒนาฟุตซอล พร้อมด้วย รศ.ดร. วิชิต คำนึงสุขเกษม ในฐานะประธานกรรมการ, ดร. วิชิต แย้มบุญเรือง ที่ปรึกษา และคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายแพทย์ไพศาล จันทรพิทักษ์, นายยุทธพงศ์ วิชัยดิษฐ์, นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, นายสินทวีชัย หทัยรัตนกุล และ นายจีระศักดิ์ โจมทอง
หลังการประชุม นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “วันนี้เป็นการประชุมคณะบริหารและพัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทย ครั้งที่ 1 โดยมีท่านอาจารย์ด็อกเตอร์ วิชิต คำนึงสุขเกษม เป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งมีหน้าที่หลัก คือ ขับเคลื่อนแผนพัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทย 20 ปี ให้เป็นขั้นตอนและติดตามการทำงาน การบริหารจัดการในทีมชาติไทย ทุกรุ่นอายุ”
“ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อที่จะทำให้ผลงานของทีมชาติไทย ทุกรุ่นอายุ มีการพัฒนา เปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีขึ้น เชื่อว่าถ้าเรามีคณะกรรมการ ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ที่มีประสบการณ์หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับวงการกีฬาฟุตบอลช่วยกันทำงาน”
“โดยทุกคนมีความตั้งใจมุ่งหวังที่จะเสียสละ เพื่อประเทศชาติ และทำให้แฟนบอลชาวไทย พึงพอใจกับผลงานของทีมชาติไทย จะนำมาซึ่งรอยยิ้มและความสุขของแฟนบอลชาวไทย”
ส่วนการแต่งตั้งโค้ชคนใหม่ทีมชาติไทย นั้น นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “เรื่องโค้ชผมก็ขอเวลานิดเดียวเหลือเพียงสัญญาเท่านั้นเอง ถ้าพูดไปแล้วไม่เซ็นสัญญาก็จะมีปัญหาขึ้นได้”
“ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว คนที่ไม่เข้าใจก็อาจตำหนิได้ว่า ไหนว่าคุยกันแล้วทำไมถึงออกมาเป็นแบบนี้ ผมเองหรือน้องๆ เองก็ทราบดีว่า เพียงคืนเดียวอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนใจกันได้”
“ส่วนจะคุมชุดไหนบ้างนั้น มันอยู่ในข้อตกลง ส่วนสตาฟฟ์โค้ชจะเป็นคนไทย เพื่อทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น หรือเห็นศักยภาพของนักกีฬาไทยมากขึ้น แม้ว่าโค้ชคนใหม่จะทำการบ้าน ก่อนเข้ามารับงานนี้มาแล้วเกือบเดือนแล้วก็ตาม”
“สำหรับการหาโค้ชฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เรามีการพูดคุยกับคนที่อยากเข้ามาร่วมงานกับสมาคมฯ แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าแบบนี้ถ้าเราจะไปสรรหาโค้ชอาจไม่ทันเวลา จึงได้มีการปรับเปลี่ยนแผนใช้โค้ชที่เราคิดว่ามีความสามารถรู้จักนักกีฬา เคยทำงานกับนักกีฬา มาทำหน้าที่ตรงนี้”
“ส่วนตำแหน่งผู้จัดการหญิง มีคนที่สนใจมาทำหน้าที่ตรงนี้ แต่จะทำได้ดีเท่า คุณนวลพรรณ ล่ำซำ หรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง”
“เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่”คุณแป้ง” ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียสละให้กับฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้ฟุตบอลหญิงมีโอกาสเข้าร่วมฟุตบอลโลกได้ถึงสองครั้ง”
“ส่วนตัวคุณแป้งเอง คงมีเหตุผล ซึ่งตัวผมเองก็เคารพในเหตุผลนั้น ว่าทำไมท่านถึงอำลาวงการฟุตบอลหญิง จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ในฐานะนายกสมาคมฯ ขอขอบคุณ คุณแป้ง ไว้ ณ ที่นี้ ด้วยครับ
“หลังจากที่ผมรับฟังเหตุผลจากคณะกรรมการชุดนี้แล้ว ทุกคนเห็นพ้องว่าให้โค้ชพิจารณานักเตะจากศักยภาพปัจจุบัน คุณ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ได้พูดว่าโค้ชทุกคนสามารถทำทีมได้ดี ถ้าโค้ชคนนั้นเลือกจากความจริง อย่าเลือกจากความเชื่อ ถ้าโค้ชเลือกจากความเชื่อไม่เอาความจริงมาใช้ ทีมชาติไทยก็จะไม่ได้นักกีฬาศักยภาพที่ดี”
สำหรับ คณะกรรมการพัฒนาและบริหารฟุตบอลทีมชาติไทย ทั้ง 15 ท่าน ถือเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ แก่วงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน
กลุ่มที่ 1. ด้านวิชาการ และเทคโนโยยีสมัยใหม่ ประกอบด้วย รศ. ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม สภากรรมการ, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง อดีตประธานบริษัท ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก และ นายวิรัช ชาญพานิชย์ อดีตผู้จัดการทีมชาติไทย
กลุ่มที่ 2. ด้านเทคนิค ประกอบด้วย นายวิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค สมาคมฟุตบอลเเห่งประเทศไทย, นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ, และ ดร.จตุพร ประมลบาล ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬาฟุตบอล
กลุ่มที่ 3. ด้านการบริหารจัดการ ประกอบด้วย นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี, นายทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีมสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด , นายธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี , นายมิตติ ติยะไพรัช ผู้บริหารสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และ นายจีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ สโมสรชลบุรี เอฟซี
กลุ่มที่ 4. ด้านการแพทย์ และวิทยาศาสตร์การกีฬา ประกอบด้วย นายแพทย์ไพศาล จันทรพิทักษ์ ประธานคณะกรรมการและกรรมการฝ่ายแพทย์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีความเชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ออร์โทพีดิกส์ (กระดูกและข้อ)
กลุ่มที่ 5. อดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ประกอบด้วย นาวาอากาศโทปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตกองหน้าทีมชาติไทย และ นายสินทวีชัย หทัยรัตนกุล อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย
กลุ่มที่ 6. ด้านสื่อสารมวลชน ประกอบด้วย นายยุทธพงศ์ วิชัยดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 99 คลื่นเมืองไทย แข็งแรง (Active Radio) โดยจะมีการจัดประชุมครั้งต่อไป ณ ที่ทำการสมาคมฯ ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 เวลา 13.00 น.