ชาวบ้าน 2 อำเภอค้านผนวกป่า 28,000 ไร่เข้าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาประชาธิปไตย อบต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายสรศิริ จันดีบุตร ปลัด อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมเพื่อรับทราบ ข้อเท็จจริง และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง การประกาศพื้นที่เตรียมการกำหนดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองป่า พ.ศ.2562 (ครั้งที่ 2) ซึ่ง สิบเอกธีรยุทธ มณีโชติ ปลัด อบต.ไพรพัฒนา ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบต.ไพรพัฒนา ได้จัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้น โดยมี นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฏร พร้อมด้วย นายสาธิต พันธุมาศ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา น.ส.จันทรา คำเสน ผู้แทนการค้า ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมประชุมด้วย และมีผู้นำหมู่บ้านในเขต อ.ขุนหาญ อ.ภูสิงห์ ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับกระทบมาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้าน 2 อำเภอต่างไม่เห็นด้วยที่จะให้ผนวกป่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
นายวีรสิทธิ์ นรสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านแซรไปร หมู่ 8 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ กล่าวว่า ถ้าทางราชการมีความจริงจังจริงใจที่จะแก้ปัญหาก็ควรที่จะออกเอกสารสิทธิ์ให้กับชาวบ้านไป ส่วนป่าชาวบ้านไม่ขอหรอก ถ้าเป็นพื้นที่ป่า ชาวบ้านก็จะช่วยกันดูแลขอไว้ใช้เพื่อเป็นอาหารให้กับชุมชนเป็นยารักษาโรคไม่มีชาวบ้านคนไหนที่จะขอให้ออกเอกสารสิทธิ์ป่าเป็นของตนเอง แต่ที่เรายืนยันเรากังวลคัดค้านมาตลอดก็คือในเมื่อมันเป็นพื้นที่ของชาวบ้าน ถ้าทางราชการเข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจังจริงใจ การผนวกผืนป่าเข้าเป็นป่าอนุรักษ์ ก็เข้าใจว่าท่านจะเอาป่าที่เป็นพื้นป่าจริง ๆ แต่คำว่าพื้นที่ป่าจริง ๆของทางราชการวันหนึ่งวันใด ทางราชการก็อาจจะมาไล่ชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่ โดยบอกว่ามันอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั้ง ๆที่ชาวบ้านก็ทำกินอยู่ตลอด
นายทวีศักดิ์ มะลิซ้อน อดีต นายก อบต.ไพรพัฒนา กล่าวว่า จากการที่ตนได้รับฟังเรื่องนี้มา 2 ชั่วโมงแล้วถามว่าสบายใจมั้ย ตนไม่สบายใจเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ ต.ไพรพัฒนาของเรา ตนขอพูดเต็มปากเต็มคำตรงๆ เลยว่าไม่เห็นด้วยที่ท่านจะไปผนวกเขตอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ตรงนี้ หลาย ๆ ท่านก็เป็นห่วงว่าแล้วอนาคตของ ต.ไพรพัฒนาเราจะเป็นอย่างไร หลายท่านมองเห็นความเจริญหวังเห็นความก้าวหน้า แต่ขณะเดียวกันรัฐมาบีบคั้นแบบนี้ ความก้าวหน้าความเจริญของ ต.ไพรพัฒนา ซึ่งเป็นประตูไปสู่ช่องสะงำจะอยู่ตรงไหน
นายสมปอง มณฑก นายช่าง อบต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการผนวกป่าเพราะว่าขั้นตอนการดำเนินการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ถูกต้อง เราได้คัดค้านในที่ประชุมสภา อบต.ห้วยจันทร์ถึง 2 ครั้งแล้ว เนื่องจากการที่เราคัดค้านนี้เพราะว่าเราคัดค้านเรื่องแนวเขต เพราะว่าไม่ได้นำเอาแนวเขตมาอธิบายให้ที่ประชุมสภา อบต.ห้วยจันทร์ได้รับทราบ ซึ่งทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาบอกว่าถ้าเป็นป่าที่สมบูรณ์เราก็จะให้ เราไม่ได้หวงพื้นที่เอาไว้เพื่อให้เป็นเขตของท่าน แต่เรามีความห่วงใยที่ว่าท่านไม่ได้มาประสานงานที่ถูกต้อง ไม่ได้ร่วมกับท้องถิ่นหรือว่าผู้มีอำนาจหน้าที่ในท้องที่ในการให้ความร่วมมือเพื่อจะได้มีการประสานงานกัน และที่สำคัญชาวบ้านในเขต ต.ห้วยจันทร์ ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการผนวกป่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
นายพสิษฐ์ จันทรเภา สมาชิกสภาเทศบาล ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ที่สำคัญก็คือเมื่อยังไม่มีมติหรือว่ามติยังไม่ชัดเจนทำไมถึงยังมีการขีดแนวเขตได้ เพราะว่าสภาเทศบาล หรือว่าท้องที่ท้องถิ่นยังไม่ชัดเจนเรื่องแผนที่แต่ทำไมมีการขีดแนวเขตมาได้ อันนี้เป็นคำถามที่ต้องถามต่อท่านสาธิต พันธุมาศ แต่ก็ต้องขอบคุณที่ท่านทำหนังสือลงมาถึงผู้ใหญ่บ้าน ในเขต ต.กันทรอมทุกหมู่บ้าน เราตีความจากหนังสือเพื่อขอข้อเท็จจริงให้กำนันผู้ใหญ่บ้านในเขต ต.กันทรอม ทราบ
สิบเอกธีรยุทธ มณีโชติ ปลัด อบต.ไพรพัฒนา กล่าวว่า ในการประชุม สภา อบต.ไพรพัฒนา เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 60 ที่ผ่านมา ได้มี หน.ส่วนราชการแห่งหนึ่งเข้ามาร่วมประชุมด้วย โดย หน.ส่วนราชการคนดังกล่าวได้แจ้งในที่ประชุมว่า มาขอแนะนำตนเองว่า มารับราชการปฏิบัติหน้าที่ใหม่แทนคนเดิมที่ย้ายไป พร้อมทั้งแจ้งให้ทราบถึงภาระกิจของหน่วยงานที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายของหน่วยเหนือ แต่ปรากฏว่า ได้มีการแอบอ้างว่า การประชุมสภา อบต.ไพรพัฒนาดังกล่าวได้มีมติเห็นชอบในการผนวกป่าเข้าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนในฐานะเลขานุการ สภา อบต.ไพรพัฒนา ได้ตรวจสอบบันทึกการประชุมดังกล่าวแล้ว ไม่พบว่ามีมติเกี่ยวกับเรื่องการผนวกป่าแต่อย่างใด ตนจึงขอฝากถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ตรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่า เป็นการรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาหรือไม่อย่างไร
นายสาธิต พันธุมาศ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ท่าน ส.ส.ธีระ ไตรสรณกุล ได้ให้โอกาสทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงกับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต.ไพรพัฒนา ต.กันทรอม ต.ห้วยจันทร์ที่อยู่ในที่ที่เราจะมีการผนวกเข้าเป็นป่าพื้นที่อนุรักษ์นี้เพิ่มเติมขึ้นมา เราก็จะต้องพยายามทำความชี้แจงกับชาวบ้านให้เข้าใจในเรื่องของการอนุรักษ์ป่า แต่เราไม่ได้เอาที่ดินของราษฎรมาผนวกเข้าเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เราเอาป่าธรรมชาติและป่าที่สมบูรณ์จริง ๆและเชื่อมต่อพื้นที่ป่าเดิมขยายออกมา ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 25% ซึ่งเนื้อที่ที่จะผนวกเข้าไปนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 18 แปลง เนื้อที่ 28,533.32 ไร่ ส่วนการที่ประชาชนไม่เห็นด้วยในส่วนนี้นั้นเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นไปยังหน่วยเหนือเพื่อให้รับทราบว่าเหตุผลที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยในการผนวกป่าเพราะอะไร สุดท้ายก็ต้องเราจะต้องช่วยกันรักษาป่าเพราะป่าเป็นของคนทุกคน
นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติตามกฎหมายมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ตนเชื่อว่ามีทางออกและเราก็คงไม่ได้มาทะเลาะกัน ซึ่งสรุปในวันนี้ก็คือ ให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับพี่น้องประชาชนไปเดินดูแปลงป่าต่าง ๆว่า แปลงนี้กระทบชาวบ้านหรือไม่ ถ้าไม่กระทบก็สามารถเลื่อนเขตได้ทำเป็นป่าไป ตนคิดว่าน่าจะเป็นทางออกร่วมกันที่ดี ส่วนเรื่องมติสภา อบต.นั้น ทางเขตห้วยศาลาก็จะต้องขอมติกับทาง อบต.ใหม่อีกครั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำชุมชนต่าง ๆ ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะว่าขณะนี้ยังไม่ได้ถึงขั้นตอนของการที่จะต้องประกาศเป็นกฎกระทรวงออกมา ถ้าประกาศออกมาก็จะแก้ไขลำบากตอนนี้ยังแก้ไขได้อยู่ ในฐานะที่ตนเป็นตัวแทนของฝ่ายประชาชนก็คงจะต้องเข้าข้างฝ่ายประชาชนจะไปเข้าข้างทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ แต่ก็จะต้องรับฟังเหตุผลต่าง ๆทั้งของฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายประชาชนเพื่อที่เราจะไปด้วยกันได้ อยู่ด้วยกันได้ บ้านเมืองเรามันขัดแย้งกันเรื่องอุดมการณ์ไปมากแล้ว ก็ขอให้เอาเรื่องความเป็นจริงมาว่ากันเราจะอยู่กันยังไงต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *